nooknazha โพสต์ 2020-4-12 03:17:24

[นิทาน] เรื่องที่ 4 แม่ย่านางรถทัวร์

แม่ย่านางรถทัวร์

บันทึก : ของนุ้ก ตุลาคม ปี 2549

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก่อนประสบการณ์ 'ดวงจิตเทวดา ที่วัดพระธาตุผาเงา จ.เชียงราย' เป็นอีกประสบการณ์หนึ่งที่รู้สึกประทับใจ เพราะเป็นครั้งแรกที่ได้ยินเสียงเทวดาของจริงทั้งที่ยังตื่นอยู่มีสติครบ
ช่วงเดือนตุลาคม ปี 2549 คณะของอาจารย์ยุทธนันท์ ประวงษ์(สมัยท่านยังเป็นฆราวาส)ได้จัดทัวร์บุญขึ้นระยะเวลา 3 วัน 2 คืน ค่าเดินทางคนละ 2,500 บาท ผู้เล่ากับแฟนได้จองที่นั่งด้วยกัน 2 เป็นเงิน 5,000 บาท

เมื่อถึงวันเดินทางไปขึ้นรถทัวร์ตามเวลานัด แฟนของผู้เล่าพะว้าพระวงเลือกของและเสื้อผ้าใส่กระเป๋ามากเกินไป จนล่าช้า เป็นเหตุให้ไปขึ้นรถทัวร์บุญไม่ทัน ตอนนั้นผู้เล่าโทรฯไปขอร้องพ่อของผู้เล่า ให้ช่วยขับรถจากสมุทรปราการพาไปส่งที่จุดจอดรถก่อนถึงจังหวัดอยุธยา เพราะรถทัวร์บอกจะหยุดรับคนบางส่วนที่นั่น

เมื่อรถทัวร์ไปถึงจุดนัดแล้ว ทุกคนบนรถพร้อมจะออกเดินทางต่อ แต่ผู้เล่ากับแฟนยังมาไม่ถึง อาจารย์ยุทธฯจึงบอกให้รถทัวร์ช่วยจอดรอเพราะไม่อยากให้ผู้เล่าและแฟนพลาดงานบุญใหญ่

พ่อของผู้เล่าต้องทำความเร็วรถ รีบไล่แซงรถคันอื่นจนหวาดเสียว แต่ในที่สุดผู้เล่ากับแฟนก็ได้ขึ้นรถทัวร์ ผู้เล่าเดินขอโทษคนทั้งรถที่ทำให้เสียเวลา และขอโทษอาจารย์ที่ทำให้กำหนดเวลาเดินทางคลาดเคลื่อนทั้งโปรแกรม

ในขณะที่ผู้เล่าเดินขอโทษคนทั้งรถ แฟนของผู้เล่ามีใบหน้ายิ้มแย้มดีใจตลอดเวลาที่จะได้ไปเที่ยว ไม่มีความรู้สึกผิดใดๆ ทำให้ผู้เล่ารู้สึกโกรธจึงไม่พูดอะไรกับเขา

จนเวลาผ่านไปประมาณ 8 โมงเช้า รถทัวร์ขับมาถึงจังหวัดชัยนาทก็จอดแวะทานอาหารเช้าที่ร้านต้มเลือดหมูที่อยู่ติดถนนสายเอเซีย แฟนกับคนอื่นๆทยอยเดินลงรถ แต่ผู้เล่ารู้สึกไม่หิว ส่วนนึงเพราะยังรู้สึกโกรธ จึงไม่รู้สึกอยากทานอะไร

เมื่อทุกคนลงไปหมดเหลือแต่ผู้เล่านั่งซึมบนรถ ผู้เล่าจึงนั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ไม่นานนักก็ได้กลิ่นหอมดอกไม้ลอยมาจากท้ายรถ(ผู้เล่านั่งอยู่ตำแหน่งกลางรถริมหน้าต่างฝั่งซ้าย) เป็นกลิ่นหอมอ่อนๆจางๆ คล้ายกลิ่นดอกไม้หลากชนิดรวมกัน พร้อมกับลมเย็นยะเยือก พุ่งมาจากด้านหลังเหมือนใครจงใจเปิดแอร์พุ่งใส่หลัง ขณะที่กำลังงงกับกลิ่นหอม อากาศรอบตัวค่อยๆหนาแน่นขึ้น เหมือนเป็นไอหมอกจางๆ เย็นขึ้นเรื่อยๆ และกลิ่นหอมก็แรงขึ้น

ผู้เล่ารู้สึกเหมือนมีก้อนอากาศหนาแน่นก้อนนึง ค่อยๆเคลื่อนจากท้ายรถ ผ่านเบาะที่ผู้เล่านั่งไปช้าๆ ไปหยุดที่ด้านหน้า และสักพักพนังผิงเก้าอี้ที่นั่งด้านหน้าของข้าพเจ้าก็ขยับเล็กน้อย มันค่อยๆเอนหงายมาหาผู้เล่าเหมือนมีคนกำลังนั่งและจงใจเอนตัวมาหา

ขณะนั้นผู้เล่ารู้สึกตัวและมีสติชัดเจน จะรีบวิ่งลงจากรถก็ได้ แต่เพราะความอยากรู้ปนกับยังความเศร้าในใจ จึงเลือกที่จะหยุดอยู่ต่อและรอดูสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมา

แม้ที่นั่งด้านหน้าจะโน้มมาหา แต่ผู้เล่ากลับมองไม่เห็นใคร ไม่นานมีเสียงผู้หญิงดังมาจากด้านหน้า ถามว่า "เป็นอะไร?" ผู้เล่าเงียบไม่ตอบ ค่อนข้างตกใจเพราะเสียงเธอเพราะมาก หวานกังวาลใส เหมือนเสียงระฆังกรุ้งกริ้งตามโบสถ์ ก้องสะท้อนไพเราะในหัว และเสียงนั้นมีอำนาจบางอย่างทำให้ความว้าวุ่นของผู้เล่าสงบลง

เมื่อผู้เล่าไม่ตอบ เธอจึงชวนคุย เหมือนมาคุยเป็นเพื่อน บอกให้ผู้เล่าหายโกรธ ให้สนุกกับการไปทำบุญ เธอพูดเพราะมาก ไม่มีคำไหนที่ฟังแล้วรู้สึกขัดหู เธอพูดไปหัวเราะไปอย่างอารมณ์ดี ขนาดเสียงหัวเราะยังคล้ายกับเสียงระฆังเล็กๆโดนลม

เพราะความไพเราะของน้ำเสียงทำให้ผู้เล่าเคลิ้ม ความเศร้าหมองที่มีเหมือน มีลมเย็นหอบหายไปหมด สมองมีแต่ความรู้สึกชื่นบาน จิตใจปลอดโปร่ง

ประโยคสุดท้ายเธอพูดกับผู้เล่าประมาณว่า "อารมณ์ดีขึ้นแล้ว" จากนั้นพนักพิงที่นั่งด้านหน้าก็เอนกลับเข้าที่เดิม อากาศที่เย็นเหมือนแอร์รอบตัวก็หายไป ความหนาแน่นอากาศรอบตัวลดลง และกลิ่นดอกไม้หอมก็หายไปพร้อมกัน

ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติเร็วมาก พร้อมกับเวลาเหมือนจะผ่านไปร่วม 10-20 นาที เมื่อผู้เล่ามองออกไปนอกรถ เห็นแฟนเดินกลับมาตามให้ผู้เล่าไปทานข้าว ทำให้ผู้เล่ารู้ว่าเวลาจริงเพิ่งผ่านเพียง 1-2 นาทีเท่านั้นผู้เล่าจึงยิ้มให้แฟน รีบลงรถไปหาเขาและเดินไปทานข้าวด้วยกัน ตลอดการเดินทางข้าพเจ้ายิ้มแทบจะตลอดเวลา จนแฟนถามว่าเป็นอะไร ผู้เล่าส่ายหน้าหัวเราะ ไม่ตอบ เรื่องที่เกิดขึ้นมันค่อนข้างจะเกินจริง ถึงเล่าไปใจเขาอาจจะไม่เชื่อและเธอคนนั้นอาจจะไม่อนุญาตให้เล่าก็ได้ ผู้เล่าจึงเลือกที่จะเงียบ ไม่ตอบคำถาม

ตอนกลางคืนคณะทัวร์บุญแวะนอนที่วัดพระธาตุผาเงา จ.เชียงราย ขณะที่แฟนกำลังยืนต่อคิวรออาบน้ำ ผู้เล่านอนเล่นมือถือบนที่นอน รอคิวอาบตอนดึก จู่ๆแฟนก็วิ่งหน้าตื่นมาบอก "นุ๊กๆๆ ผีหลอกๆ เมื่อกี้เจอผีหลอก" แฟนพูดไปยิ้มไป เหมือนเด็กมีเรื่องตื่นเต้นอยากอวด ผู้เล่าถามว่าผีอะไร? หลอกยังไง?

แฟนเล่าว่าตอนเข้าแถวต่อคิวเข้าอาบน้ำ ตรงที่เขายืนรอสามารถมองเห็นรถทัวร์ที่จอดอยู่ได้ชัด เขาเห็นบนรถทัวร์เปิดไฟสว่างทั้งคัน และเห็นผู้หญิงผมยาวแต่งชุดขาวแบบคนปฏิบัติธรรมบนรถ แฟนมองเห็นแค่ข้างๆ แอบคิดเล่นๆว่า สงสัยผู้หญิงคนนั้นคงจะลืมของไว้บนรถ พอดีกับคนข้างหน้าแถวขยับเดิน แฟนเลยเดินบ้่าง 1 ก้าว แล้วหันไปมองบนรถทัวร์อีก ปรากฏว่าผู้หญิงผมยาวคนนั้นหายไปแล้ว

ผู้เล่าถามว่าตำแหน่งที่ผู้หญิงคนนั้นนั่งอยู่ช่วงไหนของรถ แฟนบอกเห็นนั่งข้างหน้าที่นั่งของผู้เล่า ฝั่งซ้าย ผู้เล่าแกล้งบอกว่าเขาอาจจะตาฝาดก็ได้ แต่แฟนยืนยันว่าเขาเห็นจริงๆ ตอนนั้นผู้เล่าจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อตอนเช้าให้เขาฟัง คิดว่าเธอคนนั้นคงอนุญาตให้เล่าได้ และเธออาจจะมาช่วยมาช่วยยืนยันให้แฟนของผู้เล่าเชื่อว่าเธอมีตัวตนอยู่จริง และเธออยู่ดูแลรถคันนั้น

ขอจบประสบการณ์แต่เพียงเท่านี้.....

ขอขอบคุณเธอคนนั้นที่ทำให้การเดินทางครั้งมีสิ่งประทับใจดีๆให้ได้จดจำ

edit @ 2 Jul 2010 12:43:33 by NOOKFUFU2

หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: [นิทาน] เรื่องที่ 4 แม่ย่านางรถทัวร์